สิ่งแปลกปลอมเข้าหู (Foreign body in ear canal)

สิ่งแปลกปลอมเข้าหู (Foreign body in ear canal)

สิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในรูหู ทำให้มีอาการหูอื้อหรือปวดหูได้ และอาจทำให้มีการติดเชื้ออักเสบได้ มักพบในเด็กที่เล่นซน

การรักษา

หากมีสิ่งแปลกปลอมที่เข้าหูอยู่ลึกเกินกว่าจะเอาออกดวยตนเองได้ ไม่ควรพยายามใช้นิ้ว ไม้แคะหู หรือสิ่งของต่าง ๆ พยายามแคะเอาสิ่งแปลกปลอมออกด้วยจนเอง เพราะอาจเป็นอันตรายได้ แนะนำให้พบแพทย์ ซึ่งแพทย์หู คอ จมูก จะมีอุปกรณ์ที่ช่วยเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกได้อย่างง่ายได้และไม่เป็นอันตราย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกหู คอ จมูก
โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร. 039-319896


บทความที่เกี่ยวข้อง

หูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis)

หูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis)

หูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis) หูชั้นใน เป็นส่วนที่ควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัว โดยหูชั้นในอักเสบส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งแพร่กระจายจากบริเวณจมูกและลำคอไปสู่หูชั้นใน มักเกิดหลังติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ คางทูม เป็นต้น บางรายเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามจากหูชั้นกลางอักเสบ อาการ วิงเวียนศีรษะ เห็นพื้นบ้านหรือเพดานหมุน เป็นมากเวลามีการเคลื่อนไหวศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายมีอาการตากระตุก เดินเซ การรักษา หากวิงเวียนมาก ควรให้นอนพักนิ่ง ๆ และหลับตา พบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม และรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือมีหูอื้อ เดินเซ ตากระตุก แขนขาอ่อนแรง ความดันโลหิตสูง คลื่นไส้ อาเจียน ควรกลับไปพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกหู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร. 039-319896

เนื้องอกในรูจมูก/ริดสีดวงจมูก (Nasal polyps)

เนื้องอกในรูจมูก/ริดสีดวงจมูก (Nasal polyps)

เนื้องอกในรูจมูก/ริดสีดวงจมูก (Nasal polyps) เนื้องอกในรูจมูก มักมีสาเหตุมาจากการเป็นไข้หวัดเรื้อรัง เช่น ภูมิแพ้อากาศ หรือการติดเชื้อของรูจมูก มักไม่มีอันตรายร้ายแรง เว้นแต่ก้อนไม่โตมากจนมีผลต่อการหายใจ และไม่เสียการรับกลิ่น อาการ คัดจมูก แน่นจมูก หายใจไม่สะดวก พูดเสียงขึ้นจมูก หากเป็นเรื้อรังอาจสูญเสียการรับกลิ่น ปวดหัวคิ้วหรือโหนกแก้ม กรณีก้อนอุดตันรูไซนัส การรักษา การผ่าตัดเป็นการรักษาหลักที่ทำให้หายขาด แต่ก็มีบางรายที่เกิดเนื้องอกซ้ำ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกหู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร. 039-319896

ไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบ ไซนัส (Sinuses) หมายถึง โพรงอากาศที่อยู่รอบๆ โพรงจมูกเราทั้งซ้ายและขวา โดยปกติคนเรามีโพรงไซนัส ทั้งหมด 4 แห่ง คือ บริเวณระหว่างตาทั้งสองข้าง บริเวณแก้ม บริเวณหน้าผาก และบริเวณในสุดของรูจมูกและที่ใต้ ฐานกะโหลก โพรงอากาศนี้เป็นที่โล่งๆ ในกะโหลกศีรษะ แต่ละโพรงอากาศจะมีรูระบายอากาศตามธรรมชาติ โพรงละ 1 รู ซึ่งจะระบายเข้าสู่โพรงจมูก และเมื่อเยื่อบุโพรงไซนัสมีการอักเสบ เราจึงเรียกว่า “ไซนัสอักเสบ” (วิชญ์ บรรณหิรัญ, 2553) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา อาการนําของไซนัสอักเสบ คัดจมูก นํ้ามูกข้นเขียวหรือเหลือง หายใจมีกลิ่นเหม็น ปวดศีรษะ ปวดขมับ ปวดแก้ม ปวดท้ายทอย หนักหัว เสมหะข้นไหลลงคอ ไอบ่อย เลือดออกทางจมูก (พบในบางราย) รายที่เป็นรุนแรงอาจมีไข้สูง ตาบวมอักเสบได้ เป็นต้น การรักษา การให้ยาซ่าเชื้อ การทำให้โพรงจมูกยุบบวม โดยการใช้ยาพ่นจมูก หรือการล้างจมูก หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น ไรฝุ่น ควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ สถานที่แออัด เป็นต้น การผ่าตัด คําแนะนําในการดูแลตนเอง ผู้ที่เป็นไซนัสอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทําให้เกิดอาการหวัด ภูมิแพ้ หากรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ ควรงดว่ายนํ้า ดํานํ้า ขึ้นเครื่องบินประมาณ 2 สัปดาห์ ในช่วงที่อาการกําเริบ ไม่ควรรักษาการเองตามพื้นบ้าน เช่น ใช้กรดบางชนิดหยอดเข้าจมูก (ทําให้มีนํ้ามูกไหลออกมามาก เพราะอาจเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูก) อาจทําให้เกิดการอักเสบ หรือจมูกพิการได้ หมั่นออกกําลังกายเป็นประจํา ดื่มนํ้ามากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ในสถานที่ๆอากาศถ่ายเท การป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคไซนัสอักเสบ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เมื่อเป็นหวัดนานเกิน 1 สัปดาห์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกําลังกายอยู่เสมอ งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงสถานที่ๆ มีคนแออัด หรือบริเวณที่มี ฝุ่นควันมากๆ สิ่งมีพิษในอากาศ สารเคมีต่างๆ รักษาสุขภาพช่องปากและฟันให้ดี ไม่ให้ฟันผุ ถ้ามีโรคประจําตัว ควรรีบการรักษาจากแพทย์อย่างสมํ่าเสมอ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่แผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

ผ่าตัดทอนซิลอักเสบโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ

ผ่าตัดทอนซิลอักเสบโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ

“หยุดทรมานจากอาการ #ทอนซิลอักเสบ“ จบปัญหาต่อมทอนซิล... ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดแบบไร้ใบมีด ผ่าตัดต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radiofrequency tonsillectomy) ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดต่อมทอนซิล • ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง • เจ็บคอเรื้อรัง กินยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น • ทอนซิลอักเสบซ้ำ ๆ จนกระทบการใช้ชีวิต เช่น มีไข้ เจ็บคอ ไม่สบายจนต้องหยุดเรียน หยุดงานบ่อย ๆ • เกิดภาวะทอนซิลเป็นหนอง มีกลิ่นปากรุนแรง • ทอนซิลโตจนกระทบการหายใจ หายใจลำบากขึ้น นอนกรน บางรายถึงขั้นหยุดหายใจขณะหลับ ข้อดีของการผ่าตัดโดยใช้คลื่นวิทยุ เทคนิคการผ่าตัดทอนซิลโดยการใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency tonsillectomy) เป็นนวัตกรรมการผ่าตัดต่อมทอนซิล ซึ่งใช้คลื่นวิทยุความร้อนประมาณ 40 องศาเซลเซียสในการตัดเนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลผ่าตัดบาดเจ็บลดลงกว่าการผ่าตัดแบบเก่า และยังสามารถห้ามเลือดในขณะผ่าตัดได้ การผ่าตัดใช้เวลาสั้นลง เสียเลือดน้อย ไม่ต้องใช้ไหมเย็บแผลในขณะผ่าตัด อาการเจ็บแผลหลังผ่าตัดลดลง ระยะเวลาที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง (โดยทั่วไปนอนโรงพยาบาลประมาณ 1 วัน หลังผ่าตัด) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่แผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

เยื่อแก้วหูทะลุ (Ruptured eardrum)

เยื่อแก้วหูทะลุ (Ruptured eardrum)

เยื่อแก้วหูทะลุ (Ruptured eardrum) เยื่อแก้วหูทะลุ อาจเกิดจากการอักเสบของหูชั้นกลางได้ และที่พบบ่อยคือแก้วหูทะลุ จากการได้รับบาดเจ็บ เช่น ถูกไม้แคะหูแทงทะลุ การกระทบกระเทือนจากการถูกตีหรือถูกกระแทก การถูกเสียงดัง ๆ เช่น เสียงพุ ประทัด ระเบิด เป็นต้น อาการ หูอื้อ หูตึง ทันทีทันใดหลังได้รับบาดเจ็บ บางรายมีอาการปวดหู มีเลือดไหลออกจากหู โรคแทรกซ้อน หากไม่รักษา จะทำให้เกิดการอักเสบทำให้เป็นโรคหูน้ำหนวกได้ การรักษา กรณีรูทะลุขนาดเล็ก อาจปิดได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ต้องได้รับยาปฏิชีวนะร่วมด้วย หากรูทะลุเป็นรูกว้าง อาจต้องผ่าตัดทำเยื่อแก้วหูเทียม (Tympanoplasty) ***ผุ้ที่เยื่อแก้วหูทะลุ ห้ามดำน้ำ ห้ามเล่นน้ำ ต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าหูโดยเด็ดขาด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกหู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร. 039-319896

หูชั้นนอกอักเสบ (Otitis externa)

หูชั้นนอกอักเสบ (Otitis externa)

หูชั้นนอกอักเสบ (Otitis externa) หูชั้นนอกอักเสบ พบได้ทุกเพศทุกวัย พบบ่อยในวัยหนุ่มสาว เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักพบว่าเป็นหลังเล่นน้ำหรือแคะหู อาการ ปวดในรูหู เจ็บในรูหูมากขั้นเมื่อดึงใบหูแรง ๆ อาจมีหนองหรือน้ำเหลืองไหลจากหู บางรายมีหู้อื้อและมีไข้ บางรายตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโตที่หน้าหู หลังหู หรือบริเวณคอ การรักษา ส่วนใหญ่แพทย์จะให้รับประทานยาปฏิชีวนะ หากมีอาการปวดหรือมีไข้ แพทย์จะพิจารณาให้ยาแก้ปวดลดไข้ โดยผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ระหว่างการรักษาต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าหู สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกหู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร. 039-319896