การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้อง

การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้อง

ไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในแผนกศัลยกรรม การรักษามาตรฐาน คือ การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องโดยมีแผลบริเวณท้องน้อยด้านขวา แต่ในปัจจุบันได้มีการผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้อง ซึ่งมีข้อดี เหมือนการผ่าตัดผ่านกล้องในโรคอื่นๆ ซึ่งโดยทั่วไปการผ่าตัดผ่านกล้องนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังต่อไปนี้

ข้อดีและประโยชน์ของการผ่าตัดผ่านกล้อง

  1. แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ถ้าลงแผลผ่านสะดือจะไม่เห็นแผลเป็น
  2. หลังผ่าตัดปวดแผลน้อย ทำให้ใช้ยาแก้ปวดน้อยลง
  3. ลดระยะเวลาการอยู่โรงพยาบาล
  4. ละระยะเวลาการพักฟื้นก่อนกลับไปทำงาน
  5. ลดภาระแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนเรื่องแผล
  6. ลดพังผืด หลังผ่าตัด
  7. ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่ออื่นๆโดยตรง
  8. ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่ออื่นจากการสัมผัสอากาศแห้งเป็นเวลานาน รวมทั้งลดการเสียน้ำ และความร้อนระหว่างผ่าตัด โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็ก
  9. ศัลยแพทย์สามารถเห็นรอยโรคได้ชัดเจนขึ้นจากการขยายของเลนส์กล้อง ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยและแม่นยำขึ้น

ข้อเสียการผ่าตัดผ่านกล้อง

  1. เครื่องมือมีราคาแพง
  2. ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอื่นเพิ่มเติมในบางการผ่าตัด ซึ่งผู้ป่วยอาจต้องจ่ายค่ารักษาเพิ่ม
  3. ต้องอาศัยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อจำกัดในการผ่าตัดผ่านกล้อง

  1. ผู้ป่วยที่มีโรคปอด
  2. ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ
  3. ผู้ป่วยที่อ้วนมากเกินไป
  4. ผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319860

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดบริการใหม่เพื่อดูแลคุณ ศูนย์รักษาแผล โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี

เปิดบริการใหม่เพื่อดูแลคุณ ศูนย์รักษาแผล โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี

เพราะ “ทุกแผล” ต้องการการดูแลอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นแผลเล็กหรือใหญ่ หากละเลย อาจลุกลามจนกลายเป็นแผลเรื้อรังหรือติดเชื้อได้ที่ศูนย์รักษาแผลของเรา ผู้ป่วยจะได้รับ:• การเข้าถึงการรักษาโดยไม่ต้องรอนาน ด้วยระบบนัดหมายและทีมเฉพาะทางที่พร้อมดูแล• การดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จากทีมแพทย์ พยาบาล และสหสาขาวิชาชีพ• ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมั่นใจ แผลหายเร็ว ลดโอกาสติดเชื้อ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคตรักษาแผลแบบองค์รวม ใส่ใจในทุกขั้นตอนด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมาตรฐานการดูแลที่ครบวงจรเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 20.00 น.หากคุณหรือคนที่คุณรักมีแผลที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง มั่นใจได้ที่ศูนย์รักษาแผล โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีโทร 039 319 888, 1719

มะเร็งเต้านม "ไม่เลือกอายุ"

มะเร็งเต้านม "ไม่เลือกอายุ"

#มะเร็งเต้านม ไม่เลือกอายุ แชร์ประสบการณ์จาก คุณพรพิมพ์ แซ่เตียว ตรวจพบและรักษามะเร็งเต้านมด้วยอายุเพียง 33 ปี แพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีวางแผนการรักาาร่วมกับผู้ป่วยและญาติ เลือกทางเลือกการรักษาที่เข้าใจผู้หญิง โดยการผ่าตัด “มะเร็งเต้านม” พร้อม “เสริมเต้าใหม่” รักษาโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้าน #ศัลยศาสตร์ศีรษะคอและเต้านม #ศัลยศาสตร์ตกแต่ง #วิสัญญีวิทยา #อายุรศาสตร์โรคมะเร็ง #รังสีวินิจฉัย แค่คุณเป็น “ผู้หญิง” ก็มีความเสี่ยงเป็น “มะเร็งเต้านม” ถึง 1 ใน 8 ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน และตรวจแมมโมแกรมเป็นประจำทุกปี เพราะช่วยทำให้เราตรวจเจอโรคตั้งแต่ระยะต้นและมีโอกาสรักษาหาย “รูปและบทความได้รับการขออนุญาตจากผู้ป่วยและแพทย์ผู้รักษาแล้ว” สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888 #รักษามะเร็งเต้านม #โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี

ผ่าตัดเส้นฟอกไต

ผ่าตัดเส้นฟอกไต

ผ่าตัดเส้นฟอกไต ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เมื่อก้าวเข้าสู่ระยะที่ไตไม่สามารถทำหน้าที่ขับน้ำและของเสียออกจากร่างกายได้ แพทย์จำเป็นต้องพิจารณาให้ผู้ป่วยรักษาด้วยการฟอกไต หรือที่มักเรียกกันว่าล้างไต ผู้ป่วยสามารถฟอกไตผ่านเครื่องไตเทียม หรือล้างไตผ่านทางช่องท้อง ตามความเหมาะสมและความสะดวกขงผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องได้รับการฟอกไตตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะมีการปลูกถ่ายไต การผ่าตัดเส้นฟอกไต (Vascular Access) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาที่ดีในระยะยาว การฟอกไตทางหลอดเลือด (Hemodialysis) เป็นการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพื่อกำจัดของเสียและปรับสมดุลเลือดให้กับผู้ป่วยไตวาย โดยผู้ป่วยจะได้รับการใส่สายฟอกเลือดชั่วคราวด้วยเข็มฟอกเลือดขนาดโตที่เจาะเข้าหลอดเลือดดำ เพื่อให้หลอดเลือดดำมีขนาดโตและเลือดไหลเวียนได้มากขึ้น ซึ่งผู้ป่วยไตวายที่บำบัดด้วยการฟอกเลือดล้างไตจะต้องล้างวันละ 4 – 5 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะได้รับการปลูกถ่ายไต จึงจำเป็นที่จะต้องทำเส้นฟอกไต ที่มาของภาพ : เว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ https://www.bangkokhospital.com/content/vascular-access-returned-quality-of-life ประเภทของเส้นฟอกไต เส้นเลือดจริง (AVF: Arteriovenous Fistula) ใช้เส้นเลือดจริงของผู้ป่วย คือ เส้นเลือดดำเชื่อมต่อกับเส้นเลือดแดงของผู้ป่วย ต้องใช้เวลาหลังผ่าตัดประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ โดยเส้นเลือดดำจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของผนังเส้นเลือดจึงสามารถใช้ฟอกไตได้ ข้อดีของการใช้เส้นเลือดจริง คือ ใช้ได้นานประมาณ 4 – 5ปี ภาวะแทรกซ้อนต่ำ อัตราการติดเชื้อต่ำ การตีบตันของเส้นเลือดต่ำ โดยปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการทำเส้นฟอกไต คือ คุณภาพของเส้นเลือด การออกกำลังข้อมือ ความเข้มข้นของเลือด และการตีบตันของหลอดเลือด เป็นต้น ที่มาของภาพ : เว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ https://www.bangkokhospital.com/content/vascular-access-returned-quality-of-life เส้นเลือดเทียม (AVG: Arteriovenous Graft) ใช้ในกรณีที่เส้นเลือดจริงของผู้ป่วยมีขนาดเล็กหรือไม่มีเส้นเลือดดำที่เหมาะสมในการทำเส้นฟอกไต โดยขนาดเส้นเลือดดำที่เหมาะสมควรมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 – 2.5 มิลลิเมตร แพทย์จะใช้เส้นเลือดเทียมหรือท่อเชื่อมต่อเส้นเลือดแดง ซึ่งสามารถใช้ฟอกไตได้หลังผ่าตัดตั้งแต่ 1 วัน – 3 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นเลือดเทียม แต่ข้อจำกัดของเส้นเลือดเทียม คือ อายุการใช้งานสั้น ภาวะแทรกซ้อนสูง ราคาจะสูงกว่าเส้นเลือดจริง เมื่อไรควรทำเส้นฟอกไต เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 5 ของโรคไต คือค่า GFR น้อยกว่า 15 mL./min/1.73 m2 ต้องฟอกไตภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี อาจต้องฟอกไตฉุกเฉินเมื่อมีอาการปัสสาวะออกน้อย, ซึมลง, อ่อนเพลีย, ภาวะเลือดเป็นกรด และเกลือแร่ในกระแสเลือดผิดปกติ, บวมทั้งตัว หากไม่ได้ทำเส้นฟอกไตไว้ล่วงหน้าอาจจำเป็นต้องใส่สายฟอกไตบริเวณลำคอเพื่อฟอกไตไปก่อนจนกว่าเส้นฟอกไตจะใช้ได้ ซึ่งใช้เวลาโดยประมาณ 6 สัปดาห์ (กรณีใช้เส้นเลือดจริง AVF) ข้อดีในการทำเส้นฟอกไต ไม่ต้องใช้สายฟอกไตชั่วคราว ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเส้นเลือดดำที่คอและช่องอกตีบตัน สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น อาบน้ำ ว่ายน้ำ ฯลฯ ไม่ต้องใส่สายฟอกไตที่คอแบบฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามความสำเร็จของการผ่าตัดเส้นฟอกไตยังมีปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คุณภาพของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ ความเข้มข้นของเลือด การอุดตันของเส้นเลือด ตลอดจนการออกกำลังของมือ ดังนั้นควรเลือกผ่าตัดรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ที่มาของข้อมูล : เว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ https://bangkokhospital.com/content/vascular-access-returned-quality-of-life สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศัลยกรรมเฉพาะทางด้านหลอดเลือด โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร 039-319860

เจ็บหลังเรื้อรัง...อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก

เจ็บหลังเรื้อรัง...อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก

เจ็บหลังเรื้อรัง อาจไม่ใช่เรื่องเล็กอาการปวดหลังมักดีขึ้นได้ด้วยการพักผ่อน การใช้ยา หรือการทำกายภาพบำบัด แต่หากมีอาการต่อเนื่องนานหลายเดือน ร้าวลงขา หรือกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน อาจบ่งบอกถึงภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ซึ่งควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางการผ่าตัดหลังส่องกล้อง (Endoscopic Discectomy)เทคนิคการผ่าตัดที่ใช้กล้องส่องเข้าไปเพื่อนำส่วนของหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทออก โดยมีข้อดี ได้แก่• แผลขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร• ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้างเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด• ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และมักกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ในเวลาไม่นาน• ระยะเวลานอนโรงพยาบาลสั้นเคสตัวอย่างผู้ป่วยวัยทำงานมีอาการปวดหลังร้าวลงขาต่อเนื่อง ได้รับการรักษาด้วยยาและกายภาพแล้วไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการผ่าตัดส่องกล้อง หลังผ่าตัดไม่กี่วันสามารถลุกเดินได้เอง อาการปวดลดลงอย่างชัดเจน และกลับไปทำงานได้เร็วได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปในเมืองหลวง• นพ.ณัฐธีร์ วรรณรัตนศิริ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์เฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลัง• นพ.วิทย์ โคธีรานุรักษ์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์โรคกระดูกสันหลัง จาก โรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS)หากมีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุที่แท้จริง และเลือกรับการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การล้มเพียงครั้งเดียว…อาจเปลี่ยนชีวิตผู้สูงอายุไปตลอดกาล

การล้มเพียงครั้งเดียว…อาจเปลี่ยนชีวิตผู้สูงอายุไปตลอดกาล

การล้มเพียงครั้งเดียว…อาจเปลี่ยนชีวิตผู้สูงอายุไปตลอดกาล ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผู้สูงอายุราว 1 ใน 3 มีโอกาสหกล้มอย่างน้อยปีละครั้ง และในกลุ่มอายุมากกว่า 80 ปี ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50%ในประเทศไทย กรมอนามัยรายงานว่า การหกล้มเป็นสาเหตุการบาดเจ็บอันดับ 1 ของผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะกระดูกสะโพกหัก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเดินและคุณภาพชีวิตเคสล่าสุดที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี ผู้สูงอายุรายหนึ่งเพียงแค่ “ล้มจากเก้าอี้” แต่กลับทำให้ กระดูกสะโพกหัก ต้องเข้ารับการผ่าตัด เปลี่ยนซ่อมข้อสะโพกเทียม (Bipolar Hemiarthroplasty) เพื่อให้สามารถกลับมาเดินและใช้ชีวิตประจำวันได้อีกครั้งเคสนี้ได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ• นพ. ศุภฤกษ์ สุขสำราญ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดข้อสะโพกและข้อเข่าเทียม• นพ. ทวีชัย จิรชูพันธ์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ผู้ชำนาญด้านโรคกระดูกสันหลังจุดแข็งของ โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี คือการมีทีมสหสาขาครบวงจร- ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์หลายสาขา- ทีมวิสัญญีและพยาบาลวิชาชีพที่เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงอายุ- ทีมกายภาพบำบัดที่วางแผนฟื้นฟูเฉพาะบุคคล ตั้งแต่ฝึกเดินหลังผ่าตัดจนกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ เพราะในความเป็นจริง “การหกล้มเพียงครั้งเดียว” ของผู้สูงอายุ ไม่ได้จบแค่การบาดเจ็บ แต่ยังหมายถึงความเสี่ยงที่จะสูญเสียการเคลื่อนไหว ความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตในระยะยาวโรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี พร้อมด้วยทีมแพทย์และทีมฟื้นฟูครบวงจร จะเป็นกำลังสำคัญในการพาผู้สูงอายุกลับมายืน เดิน และใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

ผ่าตัดลดขนาดเต้านม

ผ่าตัดลดขนาดเต้านม

ผ่าตัดลดขนาดเต้านม มากกว่าความสวยงาม คือการคืนสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นการผ่าตัดดำเนินการโดยพันตรี นายแพทย์จตุพร บุญสุวรรณ แพทย์ชำนาญการ สาขาศัลยสาตร์ตกแต่ง ศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีหลายคนอาจไม่รู้ว่า “หน้าอกใหญ่เกินไป” ไม่ได้กระทบแค่รูปร่างหรือความมั่นใจ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ เช่นปวดคอ ปวดไหล่ และปวดหลังเรื้อรังหลังค่อม ไหล่งุ้ม เพราะน้ำหนักหน้าอกดึงร่างกายร่องรอยกดทับจากสายเสื้อชั้นในรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายเกิดปัญหาด้านบุคลิกภาพและความมั่นใจการผ่าตัดลดขนาดเต้านม จึงไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการแก้ปัญหาสุขภาพ พร้อมสร้างสมดุลใหม่ให้กับร่างกายและชีวิตจุดเด่นของการรักษา ปรับขนาดและรูปทรงเต้านมให้สมดุลกับรูปร่าง ลดอาการเจ็บปวดและภาระทางร่างกาย เพิ่มความมั่นใจในการแต่งกายและการใช้ชีวิต ทีมแพทย์และพยาบาลดูแลใกล้ชิด ตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจนถึงการพักฟื้น เพราะการผ่าตัดไม่ได้เปลี่ยนแค่รูปร่าง แต่เปลี่ยนทั้งคุณภาพชีวิต ความมั่นใจ และสุขภาพในระยะยาว