IUI ฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก Package

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "Packagel IUI ฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก ซื้อ ฉีด พรงมดลู รายละเอียด แพ็กเกจ เกจ อัลตร้าซาวต์มดลูกรังไข่ เตรียมน้ำเชื้ออสุจิ ฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก ค่าแพทย์และค่าเครื่องมือแพทย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มที่ ศูนย์สุขภาพสตรี โทร 039 319 877 ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพ จันทบุรี 039 319 888 1719"

บทความที่เกี่ยวข้อง

5 สาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยาก

5 สาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยาก

จากการศึกษาพบว่าอย่างน้อย 15% ของคู่สมรสมีปัญหาในการตั้งครรภ์ ซึ่งหมายความว่ามีหลายคู่ที่ประสบปัญหาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตร เช่น อายุ, สุขภาพ, สภาพแวดล้อม และปัจจัยทางพันธุกรรม การมีบุตรไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสุขภาพ แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความสุขในชีวิตคู่ ดังนั้นการเข้าใจและยอมรับปัญหานี้จะทำให้คู่รักสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังและแผนการที่ชัดเจนในการสร้างครอบครัวในอนาคต การเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ไม่เพียงแต่จะช่วยประเมินสาเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยลดความวิตกกังวล และช่วยให้คู่รักมีข้อมูลและแนวทางในการรักษาที่ชัดเจนมากขึ้น ในหลายกรณี การวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ สามารถนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ในอนาคต โดยสาเหตุของภาวะมีบุตรยากแบ่งออกเป็น 5 สาเหตุหลัก ดังนี้ ปัญหาการตกไข่ (Ovulation Factor): เกิดจากการที่ผู้หญิงมีปัญหาในการตกไข่ ซึ่งอาจตรวจสอบได้ด้วยชุดทดสอบที่ตรวจระดับฮอร์โมน LH ในปัสสาวะหรืออัลตราซาวนด์ ตรวจพบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากจะมีจำนวนและคุณภาพไข่ลดลง ทำให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น ปัญหาท่อนำไข่ (Tubal Factor): ท่อนำไข่มีบทบาทสำคัญในการปฏิสนธิ หากท่อนำไข่ตีบตัน จะทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ โดยอาจตรวจสอบได้จากการเอกซเรย์หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง ปัญหาอสุจิ (Male Factor): ประมาณ 40% ของปัญหาภาวะมีบุตรยากเกิดจากคุณภาพของอสุจิ ซึ่งสามารถตรวจได้จากการวิเคราะห์น้ำเชื้อ หากพบความผิดปกติ อาจต้องตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ปัญหาที่มดลูกและปากมดลูก (Uterine / Cervical Factor): สาเหตุจากมดลูกที่ผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือติ่งเนื้อ ที่อาจรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเช่น อัลตราซาวนด์หรือการส่องกล้อง ปัญหาเยื่อบุภายในช่องท้อง (Peritoneal Factor): อาการอักเสบในช่องท้อง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้เกิดพังผืดหรือแผลเป็น การวินิจฉัยต้องทำการผ่าตัดผ่านกล้อง นอกจากนี้ยังมี ภาวะมีบุตรยากแบบไม่มีสาเหตุ (Unexplained Infertility) ซึ่งประมาณ 10% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากไม่พบความผิดปกติชัดเจน แพทย์มักแนะนำให้ลองรักษาด้วยการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI) หรือเด็กหลอดแก้วต่อไป การทำความเข้าใจและตรวจสอบสาเหตุเหล่านี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยาก. นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

ตรวจคุณภาพอสุจิ

ตรวจคุณภาพอสุจิ

บางครั้งปัญหาการมีบุตรยากไม่ได้มาจากฝ่ายหญิงเสมอไป การเตรียมความพร้อมเพื่อมีเจ้าตัวเล็กนั้น การตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อหรือน้ำอสุจิ (Semen Analysis) ของฝ่ายชายเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยประเมินคุณภาพและปริมาณของตัวอสุจิ ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่มีค่าสำหรับการวินิจฉัยและวางแผนการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักน้ำอสุจิ “น้ำเชื้อ” หรือ “น้ำอสุจิ” (Semen) เป็นของเหลวที่ประกอบด้วยตัวอสุจิและน้ำหล่อเลี้ยง มีลักษณะสีขาวข้นและหลั่งออกจากร่างกายผู้ชายเมื่อถึงจุดสุดยอด ไม่ว่าจะเป็นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ การช่วยตัวเอง หรือจากฝันเปียก (Wet Dream) ในแต่ละครั้งจะหลั่งน้ำอสุจิประมาณ 3-4 มิลลิลิตร และมีจำนวนอสุจิเฉลี่ยประมาณ 300-500 ล้านตัว ประโยชน์ของการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ การตรวจน้ำอสุจิเป็นวิธีที่สำคัญในการประเมินภาวะมีบุตรยากจากฝ่ายชาย ปัจจัยที่ต้องพิจารณา ได้แก่: ความผิดปกติของจำนวนตัวอสุจิ: อาจเกิดจากท่อนำอสุจิตีบหรือตัน หรืออัณฑะไม่สร้างตัวอสุจิ การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ: หากตัวอสุจิไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดี อาจไม่สามารถว่ายผ่านปากมดลูกไปพบกับไข่ รูปร่างของตัวอสุจิ: ตัวอสุจิที่มีรูปร่างผิดปกติจะส่งผลกระทบต่อการปฏิสนธิ ควรตรวจน้ำอสุจิเมื่อไร โดยทั่วไปประชากรประมาณ 15% มีปัญหามีบุตรยาก ดังนั้นการตรวจน้ำอสุจิจึงแนะนำให้ทำเมื่อมีเกณฑ์ภาวะมีบุตรยาก แต่ในบางกรณีอาจต้องการตรวจเร็วกว่านั้น เช่น: มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อคุณภาพตัวอสุจิ เช่น โรคตับ โรคไต หรือประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณภาพน้ำอสุจิจะเริ่มลดลงหลังอายุ 30 ปี และเห็นผลชัดเจนในอายุ 40 ปี ภรรยาอายุมากกว่า 37 ปี ต้องการข้อมูลเพื่อวางแผนการมีบุตร วิธีการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ การตรวจน้ำอสุจิใช้มาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก (WHO Criteria) โดยรวมถึงขั้นตอนดังนี้: การตรวจดูด้วยตาเปล่า (Macroscopic Examination): ตรวจสอบลักษณะทั่วไป เช่น สี ความขุ่น และปริมาตร การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic Examination): ตรวจสอบจำนวนตัวอสุจิ อัตราการเคลื่อนไหว และรูปร่าง เทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer Assisted Sperm Analysis: CASA) ซึ่งให้ผลการวิเคราะห์ที่มีความแม่นยำสูง ลดความเบี่ยงเบนจากการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ การแปลผลตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ ผลการตรวจน้ำอสุจิจะถือว่าปกติเมื่อมีค่าตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดโดย WHO ได้แก่: ปริมาณน้ำอสุจิ ≥ 1.5 มิลลิลิตร ความเข้มข้นของตัวอสุจิ ≥ 15 ล้านตัว/มิลลิลิตร การเคลื่อนไหว ≥ 40% รูปร่างอสุจิที่ปกติ ≥ 4% ข้อปฏิบัติในการเก็บน้ำอสุจิ ก่อนการตรวจควรงดการหลั่งอสุจิอย่างน้อย 3-7 วัน และต้องเก็บน้ำอสุจิในภาชนะที่สะอาด โดยไม่ควรใช้ถุงยางอนามัย เนื่องจากอาจมีสารที่ทำลายตัวอสุจิ ข้อจำกัดในการเก็บน้ำอสุจิ ในกรณีที่ไม่สามารถเก็บน้ำอสุจิด้วยตนเองได้ สามารถใช้วิธีหลั่งภายนอกใส่ภาชนะที่โรงพยาบาลจัดให้ แต่การเก็บอาจมีปริมาณน้อยหรือคุณภาพลดลงได้ นอกจากนี้ ควรนำส่งน้ำอสุจิไปยังห้องปฏิบัติการภายใน 1 ชั่วโมงหลังการเก็บ สรุป การตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการมีลูก โดยช่วยให้คู่รักสามารถวางแผนและหาทางออกในการมีบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบปัญหาใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขและวางแผนการรักษาต่อไป นัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

แพ็กเกจเด็กหลอดแก้ว (ICSI)

แพ็กเกจเด็กหลอดแก้ว (ICSI)

มาทำให้การมีลูก..ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไปการทำด้วยอิ๊กซี่ (ICSI) อิ๊กซี่ (ICSI) คืออะไร ? ช่วยรักษาภาวะมีบุตรยากได้อย่างไร ? ใครที่กำลังประสบปัญหามีบุตรยาก ทำมาหลายวิธีแล้วไม่สำเร็จ “อิ๊กซี่” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ อิ๊กซี่ (ICSI) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ เพื่อรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย และเป็นยอมรับในทางการแพทย์ทั่วโลก เพราะมีโอกาสมีลูกได้สำเร็จสูงกว่าวิธีอื่น ๆ ช่วยให้คู่รักที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก เข้าเส้นทางสู่การเป็นพ่อแม่ได้สมปรารถนา เป็นการคัดเอาตัวอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด ผ่านการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์และฉีดเข้าไป เพื่อให้ผสมกับไข่แบบเจาะจงด้วยเข็มขนาดเล็ก พอผสมกันแล้วจะนำไปเลี้ยงในห้องปฏิบัติการด้วยน้ำยาเลี้ยงพิเศษ จากนั้นเมื่อตัวอ่อนพัฒนาไปอยู่ในระยะที่เหมาะสมแล้ว ก็จะนำเข้าไปใส่ในโพรงมดลูกเพื่อให้มีการตั้งครรภ์ต่อไป โปรแกรมเด็กหลอดแก้ว (ICIS Package) ราคา 250,000 บาท วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พญ.ฐิติชญา พฤกษานุศักดิ์ นพ. สาโรช วรรณโก สาขา สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา และการเจริญพันธุ์ ติดต่อเพื่อจองแพ็กเกจหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319-888 มาทำให้การมีลูก..ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป #ศูนย์สุขภาพสตรี #ICSI #มีบุตรยาก #โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

การมีลูกยากเป็นปัญหาที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และโชคดีที่ปัจจุบันมีหลายวิธีในการช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาร่วมกับคู่สามีภรรยาตามความเหมาะสมในแต่ละคู่ ซึ่งเทคโนโลยีที่นิยมและได้รับการยอมรับ ได้แก่ 1.การคัดเชื้อเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก (IUI) IUI เป็นวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยในกระบวนการนี้จะเก็บน้ำเชื้อจากฝ่ายชายในช่วงวันตกไข่ของฝ่ายหญิง น้ำเชื้อจะถูกคัดแยกและเพาะเลี้ยงในน้ำยาเฉพาะ เพื่อแยกอสุจิที่มีคุณภาพและแข็งแรงที่สุด ก่อนที่จะนำไปฉีดเข้าโพรงมดลูกโดยตรง วิธีนี้ช่วยให้เชื้ออสุจิสามารถเข้าถึงไข่ได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสปฏิสนธิมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดหรือการดมยาสลบ 2.เด็กหลอดแก้ว (IVF) ในกรณีที่ IUI อาจไม่เพียงพอ วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยวิธีนี้เริ่มต้นด้วยการกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่แข็งแรงจำนวนมาก จากนั้นจะทำการเก็บไข่โดยการเจาะผ่านช่องคลอด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้ยาสลบและไม่ต้องเจาะหน้าท้อง หลังจากนั้น อสุจิจากฝ่ายชายจะถูกนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ และจะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนแบ่งตัวเป็นระยะ 4–8 เซลล์ หรือจนถึงระยะบลาสโตซีสต์ (Blastocyst) ที่มีความพร้อมในการฝังตัวในโพรงมดลูก วิธีนี้ให้อัตราการตั้งครรภ์ที่สูงมากและเป็นที่นิยมในหมู่คู่รักที่ต้องการสร้างครอบครัว 3.การฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในไข่ (ICSI) สำหรับคู่รักที่มีปัญหาทางอสุจิ เช่น มีจำนวนอสุจิน้อยมากจนไม่สามารถปฏิสนธิไข่ได้ หรือไม่มีอสุจิในน้ำเชื้อเลย แต่ยังมีการผลิตอสุจิในอัณฑะ วิธี Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) จะเป็นวิธีที่เหมาะสม โดยใช้เข็มแก้วเล็ก ๆ เพื่อฉีดอสุจิเพียงหนึ่งตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ หลังจากที่อสุจิเข้าไปในไข่แล้ว จะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนเติบโตและมีความพร้อมที่จะนำกลับไปใส่ในโพรงมดลูก ซึ่งวิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมากสำหรับคู่รักที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ สรุป การเลือกวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความพร้อมของคู่รักแต่ละคู่ IUI, IVF และ ICSI ต่างมีประสิทธิภาพในแบบของตัวเอง ซึ่งทำให้สามารถช่วยให้คู่รักสามารถสร้างครอบครัวได้ตามที่หวังไว้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน การมีลูกจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

ภาวะมีบุตรยาก : INFERTILITY

ภาวะมีบุตรยาก : INFERTILITY

ภาวะมีบุตรยาก : INFERTILITY ภาวะมีบุตรยาก คือ ภาวะของคู่สมรสที่แต่งงานกันเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมออาทิตย์ละ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วยังไม่เกิดการตั้งครรภ์ สาเหตุของการมีบุตรยาก เเบ่งออกเป็น 3 สาเหตุหลัก ดังนี้ ไม่มีการตกไข่ ท่อนำไข่อุดตันหรือมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน เชื้ออสุจิของฝ่ายชายอ่อน (ตรวจนับด้วยคอมพิวเตอร์) การรักษาสามารถแบ่งออกเป็น 3 วิธี ดังนี้ การรักษาโดยการผ่าตัด การรักษาโดยการใช้ยา การรักษาด้วยเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ เทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ เป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้แก้ปัญหาการมีบุตรยาก โดยทางโรงพยาบาลกรุงเทพ จันทบุรี มีคลีนิกให้คำปรึกษาและรักษาภาวะการมีบุตรยาก โดยเเพทย์ผู้ชำนาญการสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ผ่าตัดส่องกล้องทางนรีเวช สอบถามเพิ่มเติมได้ที่คลินิกมีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กับ การทำอิ๊กซี่ (ICSI)

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กับ การทำอิ๊กซี่ (ICSI)

ปัจจุบันการทำเด็กหลอดแก้วเป็นอีก 1 ทางเลือกของคู่รักที่ต้องการมีบุตร เนื่องจากปัญหาภาวะมีบุตรยากที่เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของไข่หรืออสุจิ ความไม่สมดุลของฮอร์โมน อายุที่เพิ่มขึ้น หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ทำให้ต้องหาวิธีการช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร เมื่อเทคโนโลยีการช่วยเจริญพันธุ์อื่นใช้ไม่ได้ผลการทำเด็กหลอดแก้วนับเป็นทางเลือกที่ถูกนึกถึง แต่บ่อยครั้งที่มักจะสับสนระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วไอวีเอฟ (IVF) กับการทำอิ๊กซี่ (ICSI) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีจึงสรุปมาให้เข้าใจง่ายมากขึ้น 1. การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กระบวนการ: นำไข่และอสุจิมาผสมกันนอกตัวในห้องปฏิบัติการ อสุจิจะเข้าไปเจาะไข่เอง ซึ่งคล้ายกับการปฏิสนธิในธรรมชาติ เริ่มจากการตรวจความพร้อมของผู้หญิงในวันที่ 2-3 ของรอบเดือน และฉีดยากระตุ้นไข่ประมาณ 8-14 วัน เมื่อได้ไข่ตามที่ต้องการ จะฉีดยากระตุ้นไข่ตกและเก็บไข่ อสุจิที่เก็บจากผู้ชายจะนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกย้ายไปยังโพรงมดลูกหลังจาก 3-5 วัน 2. การทำอิ๊กซี่ (ICSI) กระบวนการ: เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาอสุจิไม่สามารถเจาะไข่ได้ ใช้เข็มฉีดอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เริ่มต้นคล้ายกับ IVF โดยการฉีดยากระตุ้นไข่ และเก็บไข่ด้วยการเจาะ ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกย้ายไปยังโพรงมดลูกหลังจากเติบโตในห้องปฏิบัติการ ข้อแตกต่างหลัก IVF: อสุจิจะผสมกับไข่เองในจานเพาะเลี้ยง ICSI: อสุจิถูกฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง ปรึกษาและนัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร 039-319888