ฝากไข่ แช่แข็งอสุจิ วางแผนมีลูกเมื่อพร้อม

การมีลูกในเวลาที่พร้อมคือความฝันของพ่อแม่หลายคน หลายครั้งคู่แต่งงานไม่ต้องการมีลูกทันที หรืออาจแต่งงานในช่วงอายุมาก หรือมีปัญหาสุขภาพที่ต้องดูแล การฝากไข่และแช่แข็งอสุจิจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างครอบครัวตามเวลาที่ต้องการ

อายุส่งผลต่อโอกาสมีลูก

อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 30 ปีมักไม่ประสบปัญหาการตั้งครรภ์ แต่เมื่ออายุเกิน 35 ปี การทำงานของรังไข่จะลดลง คุณภาพและปริมาณของไข่ก็จะลดตามไปด้วย ส่งผลให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น สำหรับผู้ชายอายุไม่ได้มีผลชัดเจนต่อคุณภาพของอสุจิ โอกาสตั้งครรภ์อยู่ที่ 30% ต่อเดือน หากไม่มีการตั้งครรภ์ภายใน 1 ปี ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ตรวจ AMH เพื่อเช็กคุณภาพไข่

การตรวจฮอร์โมน AMH (Anti-Mullerian Hormone) ช่วยประเมินคุณภาพไข่และการทำงานของรังไข่ได้ การตรวจนี้สามารถทำได้ง่ายเพียงเจาะเลือด โดยไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร ค่าของ AMH จะช่วยคาดการณ์การตอบสนองของรังไข่เมื่อฉีดยากระตุ้นไข่

ฝากไข่เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

การฝากไข่เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด การฝากไข่จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าแช่แข็งอสุจิ เริ่มจากการปรึกษาแพทย์ ตรวจเลือด ตรวจฮอร์โมน และตรวจคัดกรองโรค ก่อนจะทำการกระตุ้นไข่และเก็บไข่เพื่อแช่แข็ง

การฉีดยากระตุ้นไข่ด้วยตนเอง

ปัจจุบันผู้หญิงสามารถฉีดยากระตุ้นไข่ได้ด้วยตนเอง โดยระยะเวลาในการฉีดอยู่ที่ 9-12 วัน และต้องมีการตรวจสอบการเจริญเติบโตของไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ หลังจากนั้นจึงจะเก็บไข่ในหัตถการขนาดเล็กที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

แช่แข็งอสุจิสำหรับผู้ชาย

การแช่แข็งอสุจิเป็นทางเลือกสำหรับผู้ชายที่ต้องการมีลูกในอนาคต โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด วิธีการไม่ซับซ้อน ต้องทำการตรวจสุขภาพและเก็บน้ำเชื้อเพื่อเข้าสู่กระบวนการแช่แข็ง

อายุการฝากไข่และแช่แข็งอสุจิ

แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขชัดเจนเกี่ยวกับอายุการเก็บไข่และอสุจิ แต่แพทย์แนะนำให้ใช้ภายใน 5 ปีแรกหลังการแช่แข็ง เพราะหลังจากนั้นอาจมีความเสี่ยงที่คุณภาพจะลดลง

การสังเกตภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง

ผู้หญิงสามารถสังเกตภาวะมีบุตรยากจากการติดตามรอบประจำเดือน หากขาดหายไป 3-4 เดือน หรือรอบเดือนยาวผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ

สรุป

ไม่ว่าจะเลือกแต่งงานเมื่อใด แนะนำให้มีลูกตามธรรมชาติ โดยมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หากอายุต่ำกว่า 35 ปีควรใช้เวลา 1 ปีแรกหลังแต่งงาน หากอายุมากกว่า 35 ปีควรพยายามไม่เกิน 6 เดือน หากยังไม่สำเร็จควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยากเพื่อวางแผนการมีลูกตามที่ตั้งใจ

นัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

สอบถามเพิ่มเติมติดต่อคลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

บทความที่เกี่ยวข้อง

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

การมีลูกยากเป็นปัญหาที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และโชคดีที่ปัจจุบันมีหลายวิธีในการช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาร่วมกับคู่สามีภรรยาตามความเหมาะสมในแต่ละคู่ ซึ่งเทคโนโลยีที่นิยมและได้รับการยอมรับ ได้แก่ 1.การคัดเชื้อเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก (IUI) IUI เป็นวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยในกระบวนการนี้จะเก็บน้ำเชื้อจากฝ่ายชายในช่วงวันตกไข่ของฝ่ายหญิง น้ำเชื้อจะถูกคัดแยกและเพาะเลี้ยงในน้ำยาเฉพาะ เพื่อแยกอสุจิที่มีคุณภาพและแข็งแรงที่สุด ก่อนที่จะนำไปฉีดเข้าโพรงมดลูกโดยตรง วิธีนี้ช่วยให้เชื้ออสุจิสามารถเข้าถึงไข่ได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสปฏิสนธิมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดหรือการดมยาสลบ 2.เด็กหลอดแก้ว (IVF) ในกรณีที่ IUI อาจไม่เพียงพอ วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยวิธีนี้เริ่มต้นด้วยการกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่แข็งแรงจำนวนมาก จากนั้นจะทำการเก็บไข่โดยการเจาะผ่านช่องคลอด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้ยาสลบและไม่ต้องเจาะหน้าท้อง หลังจากนั้น อสุจิจากฝ่ายชายจะถูกนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ และจะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนแบ่งตัวเป็นระยะ 4–8 เซลล์ หรือจนถึงระยะบลาสโตซีสต์ (Blastocyst) ที่มีความพร้อมในการฝังตัวในโพรงมดลูก วิธีนี้ให้อัตราการตั้งครรภ์ที่สูงมากและเป็นที่นิยมในหมู่คู่รักที่ต้องการสร้างครอบครัว 3.การฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในไข่ (ICSI) สำหรับคู่รักที่มีปัญหาทางอสุจิ เช่น มีจำนวนอสุจิน้อยมากจนไม่สามารถปฏิสนธิไข่ได้ หรือไม่มีอสุจิในน้ำเชื้อเลย แต่ยังมีการผลิตอสุจิในอัณฑะ วิธี Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) จะเป็นวิธีที่เหมาะสม โดยใช้เข็มแก้วเล็ก ๆ เพื่อฉีดอสุจิเพียงหนึ่งตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ หลังจากที่อสุจิเข้าไปในไข่แล้ว จะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนเติบโตและมีความพร้อมที่จะนำกลับไปใส่ในโพรงมดลูก ซึ่งวิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมากสำหรับคู่รักที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ สรุป การเลือกวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความพร้อมของคู่รักแต่ละคู่ IUI, IVF และ ICSI ต่างมีประสิทธิภาพในแบบของตัวเอง ซึ่งทำให้สามารถช่วยให้คู่รักสามารถสร้างครอบครัวได้ตามที่หวังไว้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน การมีลูกจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

แพ็กเกจเด็กหลอดแก้ว (ICSI)

แพ็กเกจเด็กหลอดแก้ว (ICSI)

มาทำให้การมีลูก..ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไปการทำด้วยอิ๊กซี่ (ICSI) อิ๊กซี่ (ICSI) คืออะไร ? ช่วยรักษาภาวะมีบุตรยากได้อย่างไร ? ใครที่กำลังประสบปัญหามีบุตรยาก ทำมาหลายวิธีแล้วไม่สำเร็จ “อิ๊กซี่” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ อิ๊กซี่ (ICSI) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ เพื่อรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย และเป็นยอมรับในทางการแพทย์ทั่วโลก เพราะมีโอกาสมีลูกได้สำเร็จสูงกว่าวิธีอื่น ๆ ช่วยให้คู่รักที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก เข้าเส้นทางสู่การเป็นพ่อแม่ได้สมปรารถนา เป็นการคัดเอาตัวอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด ผ่านการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์และฉีดเข้าไป เพื่อให้ผสมกับไข่แบบเจาะจงด้วยเข็มขนาดเล็ก พอผสมกันแล้วจะนำไปเลี้ยงในห้องปฏิบัติการด้วยน้ำยาเลี้ยงพิเศษ จากนั้นเมื่อตัวอ่อนพัฒนาไปอยู่ในระยะที่เหมาะสมแล้ว ก็จะนำเข้าไปใส่ในโพรงมดลูกเพื่อให้มีการตั้งครรภ์ต่อไป โปรแกรมเด็กหลอดแก้ว (ICIS Package) ราคา 250,000 บาท วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พญ.ฐิติชญา พฤกษานุศักดิ์ นพ. สาโรช วรรณโก สาขา สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา และการเจริญพันธุ์ ติดต่อเพื่อจองแพ็กเกจหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319-888 มาทำให้การมีลูก..ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป #ศูนย์สุขภาพสตรี #ICSI #มีบุตรยาก #โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี

5 สาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยาก

5 สาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยาก

จากการศึกษาพบว่าอย่างน้อย 15% ของคู่สมรสมีปัญหาในการตั้งครรภ์ ซึ่งหมายความว่ามีหลายคู่ที่ประสบปัญหาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตร เช่น อายุ, สุขภาพ, สภาพแวดล้อม และปัจจัยทางพันธุกรรม การมีบุตรไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสุขภาพ แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความสุขในชีวิตคู่ ดังนั้นการเข้าใจและยอมรับปัญหานี้จะทำให้คู่รักสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังและแผนการที่ชัดเจนในการสร้างครอบครัวในอนาคต การเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ไม่เพียงแต่จะช่วยประเมินสาเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยลดความวิตกกังวล และช่วยให้คู่รักมีข้อมูลและแนวทางในการรักษาที่ชัดเจนมากขึ้น ในหลายกรณี การวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ สามารถนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ในอนาคต โดยสาเหตุของภาวะมีบุตรยากแบ่งออกเป็น 5 สาเหตุหลัก ดังนี้ ปัญหาการตกไข่ (Ovulation Factor): เกิดจากการที่ผู้หญิงมีปัญหาในการตกไข่ ซึ่งอาจตรวจสอบได้ด้วยชุดทดสอบที่ตรวจระดับฮอร์โมน LH ในปัสสาวะหรืออัลตราซาวนด์ ตรวจพบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากจะมีจำนวนและคุณภาพไข่ลดลง ทำให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น ปัญหาท่อนำไข่ (Tubal Factor): ท่อนำไข่มีบทบาทสำคัญในการปฏิสนธิ หากท่อนำไข่ตีบตัน จะทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ โดยอาจตรวจสอบได้จากการเอกซเรย์หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง ปัญหาอสุจิ (Male Factor): ประมาณ 40% ของปัญหาภาวะมีบุตรยากเกิดจากคุณภาพของอสุจิ ซึ่งสามารถตรวจได้จากการวิเคราะห์น้ำเชื้อ หากพบความผิดปกติ อาจต้องตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ปัญหาที่มดลูกและปากมดลูก (Uterine / Cervical Factor): สาเหตุจากมดลูกที่ผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือติ่งเนื้อ ที่อาจรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเช่น อัลตราซาวนด์หรือการส่องกล้อง ปัญหาเยื่อบุภายในช่องท้อง (Peritoneal Factor): อาการอักเสบในช่องท้อง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้เกิดพังผืดหรือแผลเป็น การวินิจฉัยต้องทำการผ่าตัดผ่านกล้อง นอกจากนี้ยังมี ภาวะมีบุตรยากแบบไม่มีสาเหตุ (Unexplained Infertility) ซึ่งประมาณ 10% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากไม่พบความผิดปกติชัดเจน แพทย์มักแนะนำให้ลองรักษาด้วยการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI) หรือเด็กหลอดแก้วต่อไป การทำความเข้าใจและตรวจสอบสาเหตุเหล่านี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยาก. นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

การตรวจสาเหตุภาวะมีบุตรยาก

การตรวจสาเหตุภาวะมีบุตรยาก

ปัญหาการมีลูกยากเป็นเรื่องที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และมีข้อมูลระบุว่าอย่างน้อย 25% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากมักมีมากกว่าหนึ่งปัจจัยที่เป็นสาเหตุ ซึ่งทำให้การตรวจประเมินปัจจัยทั้งหมดจากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้แพทย์สามารถหาสาเหตุและเสนอแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ ขั้นตอนการประเมิน เริ่มต้นด้วยการซักถามประวัติทางการแพทย์เป็นขั้นตอนสำคัญที่แพทย์จะทำ โดยจะสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังนี้: ความถี่และความสม่ำเสมอของรอบประจำเดือน: เพื่อประเมินปัญหาการตกไข่ อาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน: อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพในระบบสืบพันธุ์ ประวัติเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน: อาจมีผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ ประวัติการตั้งครรภ์และการแท้งบุตรก่อนหน้านี้: เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติการเจริญเติบโตของครรภ์ วิธีการคุมกำเนิดที่ผ่านมา: อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต สำหรับฝ่ายชาย หากมีประวัติเกี่ยวกับการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดที่อวัยวะเพศ หรือเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในหรือซิฟิลิส อาจส่งผลต่อคุณภาพของเชื้ออสุจิได้ นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ เช่น ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ ความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจขัดขวางการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ การเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ นอกจากการพูดคุยซักประวัติและวางแผนการตรวจหาสาเหตุแล้ว แพทย์ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดีในอนาคต เช่น: การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การรับประทานวิตามินเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด การให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรม ทางเลือกในการรักษา สำหรับคู่รักที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก ไม่ต้องกังวลใจ เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าหลายวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูก เช่น: การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) การทำอิ๊กซี่ (ICSI) การตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมระยะก่อนฝังตัว (PGT-A และ PGT-M) ที่ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ มีแพทย์ที่มีความชำนาญและทีมสหาสาขาวิชาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ พร้อมให้การดูแลในทุกขั้นตอน ด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้คู่รักมีโอกาสที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์ และเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์อย่างที่หวังไว้. นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

IUI ฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก Package

IUI ฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก Package

การนับวันตกไข่

การนับวันตกไข่

การนับวันตกไข่เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับผู้หญิงที่ต้องการวางแผนตั้งครรภ์ เนื่องจากการตกไข่เกิดขึ้นเพียงเดือนละครั้ง การรู้วันตกไข่จะช่วยกำหนดเวลามีเพศสัมพันธ์ที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุด การตกไข่ในผู้หญิง จำนวนไข่: ผู้หญิงแต่ละคนมีไข่ประมาณ 1 ล้านใบตั้งแต่เกิด เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ไข่จะลดเหลือประมาณ 400-500 ฟองที่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ กระบวนการตกไข่: ในแต่ละเดือน รังไข่จะคัดเลือกไข่หนึ่งใบที่สมบูรณ์ที่สุดในช่วงกลางรอบเดือน (วันที่ 14) ซึ่งจะหลุดออกมาจากถุงรังไข่และรอการปฏิสนธิ วิธีนับวันตกไข่ การนับวันด้วยตนเอง: สำหรับรอบเดือนที่สม่ำเสมอ (28 วัน) ให้เริ่มนับจากวันที่ประจำเดือนมา วันตกไข่จะอยู่ที่วันที่ 14 ควรมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1-2 วันก่อนวันตกไข่ การใช้ชุดตรวจการตกไข่: ชุดตรวจใช้ปัสสาวะเพื่อคาดการณ์วันตกไข่ได้แม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ สัญญาณของการตกไข่ มูกที่ปากมดลูก: เปลี่ยนเป็นลักษณะเหนียวและยืดหยุ่น อารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น: มีความรู้สึกทางเพศมากขึ้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น: ประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส ตำแหน่งปากมดลูก: ย้ายขึ้นและนุ่มขึ้น เจ็บคัดเต้านม: อาจมีอาการเจ็บที่เต้านม ผลึกน้ำลาย: มีลักษณะเป็นรูปใบเฟิร์นเมื่อทดสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ ปวดท้องน้อยข้างเดียว: อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตกไข่ สรุป การนับวันตกไข่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ไม่รับประกันว่าจะตั้งครรภ์ได้ 100% เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการตกไข่ หากคุณมีปัญหามีบุตรยาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษาที่เหมาะสม. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แผนกส่งเสริมสุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888