โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี พร้อมดูแลผู้บาดเจ็บจากการกีฬา ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย

โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี พร้อมดูแลผู้บาดเจ็บจากการกีฬา ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย

คุณทวีศักดิ์ รติภูรี นักฟุตบอลอาชีพ ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตัวแทนทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลอาเซียนที่ประเทศเวียดนาม ประสบอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าขวา ระหว่างการฝึกซ้อมและแข่งขัน โดยมีการบาดเจ็บหลายจุด ได้แก่

• เอ็นไขว้หน้าฉีกขาด (ACL tear)

• เอ็นด้านในฉีกขาด (MCL injury)

• หมอนรองเข่าด้านนอกฉีกขาด (Lateral meniscus tear)

อาการดังกล่าวทำให้เข่าไม่มั่นคง เสี่ยงต่อการบาดเจ็บซ้ำ และอาจส่งผลต่อการลงสนามในอนาคต หลังจากเข้ารับการตรวจ MRI ยืนยันอาการบาดเจ็บ จึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โดยเลือกใช้เทคนิค ส่องกล้องผ่าตัดซ่อมแซมเอ็นและหมอนรองเข่า (Arthroscopic ACL, MCL and Lateral Meniscus repair) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว

การผ่าตัดดำเนินการโดย

พญ.อัญชิสา ลีวิสุทธิกุล ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางเวชศาสตร์การกีฬาและการผ่าตัดส่องกล้องข้อเข่า

จุดเด่นการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี

✅ แผลเล็ก เจ็บน้อย ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน

✅ ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อกว่า 20 ท่าน ร่วมกันให้การดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพ

✅ การฟื้นฟูต่อเนื่องโดยทีมเวชศาสตร์การกีฬาและนักกายภาพบำบัด ที่พร้อมวางแผนฟื้นฟูรายบุคคล

✅ ดูแลครบวงจร ตั้งแต่ก่อนการผ่าตัด ระหว่างพักฟื้น ไปจนถึงการกลับเข้าสนามแข่งขัน

โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี ขอขอบพระคุณในความไว้วางใจที่มอบให้ เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จของการรักษาไม่ได้จบเพียงแค่การผ่าตัด แต่คือการช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ มีคุณภาพชีวิตที่แข็งแรง และพร้อมกลับไปทำในสิ่งที่รักได้อีกครั้ง

ปัจจุบันคุณทวีศักดิ์อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยมีทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกลับมาลงสนามแข่งขันในอนาคตได้อย่างเต็มศักยภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรม ออฟฟิศซินโดรมเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทำงาน ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สุขสบาย ปวดคอ บ่า ไหล่ บางรายปวดร้าวตึงขึ้นขมับ หากปล่อยไว้ระยะยาวอาจมีอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลต่อสุขภาพเรื้อรังได้ สาเหตุการเกิดออฟฟิศซินโดรม สิ่งแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม ปัจจัยจากตัวบุคคล ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น อาการ ปวดกล้ามเนื้อ มักมีอาการปวดแบบเมื่อยล้าเป็นบริเวณกว้าง ที่พบบ่อยคือปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ มีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น ชา ซ่า วูบเย็น ตรงบริเวณที่ปวด บางรายมีอาการมึนศีรษะ หูอื้อ ตาพร่า หากเป็นรุนแรงอาจมีอาการของระบบประสาทถูกกดทับ เช่น มีอาการชาหรืออ่อนแรงแขนและมือ การดูแลรักษา ปรับสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม รักษาด้วยยา ทำกายภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างเหมาะสม ปรับอริยาบถและพฤติกรรมการทำงานให้ถูกต้อง รักษาด้วยศาสตร์ทางเลือก เช่น ฝังเข็ม นวดแผนไทย การป้องกัน จัดสิ่งแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม ดูแลจัดการความเครียด การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 3 มื้อ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่แผนกกายภาพบำบัด โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร039-319888

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก

ท่านอนลดอาการปวดหลัง เสริมสร้างคุณภาพการนอนดีขึ้น

ท่านอนลดอาการปวดหลัง เสริมสร้างคุณภาพการนอนดีขึ้น

ท่านอนลดอาการปวดหลัง เสริมสร้างคุณภาพการนอนดีขึ้น เชื่อว่าหลายคนคงมีประสบการณ์ตื่นขึ้นมาแล้วปวดหลัง พาลทำให้คุณภาพการนอนของเราแย่ลงใช้ชีวิตลำบากขึ้น แก้ ด้วย 3 ท่านอนนี้! จะช่วยถนอมหลังของคุณได้! อาการปวดหลัง ส่วนใหญ่เกิดจาก ความเครียด น้ำหนักส่วนเกิน การยกของผิดวิธี การนั่งในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ หรือท่านอนที่ไม่เหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังได้นะคะ ซึ่งการทำกายภาพบำบัดเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษา เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนท่านอนที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลังได้ 3 ท่านอนลดอาการปวดหลัง นอนตะแคงข้างก่ายหมอน นอนตะแคงข้างที่ถนัด หนุนหมอนที่ศีรษะตามปกติ งอเข่าทั้งสองข้างและวางหมอนหนุนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เข่าแตะที่นอน เพราะกระดูกสันหลังส่วนล่างจะพลิก ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดหลังและสะโพกได้ นอนหงายหนุนเข่า นอนหงายหนุนหมอนที่ศีรษะ ปล่อยตัวตามสบายโดยวางหมอนหนุนอีกใบไว้ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยรักษาความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ท่านี้เหมาะสำหรับผู้มีอาการปวดหลังที่ไม่รุนแรงมากนัก นอนคว่ำหนุนหน้าท้อง หากคุณไม่สามารถนอนท่าอื่นๆ ได้ และจำเป็นต้องนอนคว่ำ ให้นอนหนุนหมอนบริเวณช่วงคอและหน้าอกส่วนบน โดยหันใบหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง และนำหมอนหนุนอีกใบวางไว้ใต้บริเวณสะโพก เพื่อผ่อนคลายความตึงของแผ่นหลัง และหากยังรู้สึกตึงหรือเจ็บปวดอยู่ให้นำหมอนหนุนที่ศีรษะออก ขอบคุณข้อมูลจาก : BDMS สถานีสุขภาพ

ออกกำลังกายหนักเกินไปมีผลเสียอย่างไร

ออกกำลังกายหนักเกินไปมีผลเสียอย่างไร

ออกกำลังกายหนักเกินไปมีผลเสียอย่างไร การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมมีผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน แต่ในทางกลับกัน การออกกำลังกายมากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดผลเสียต่อร่ายกายตามมาได้เช่นกัน โดยการออกกำลังกายมากขึ้นอาจทำให้เกิดผลต่อร่างกายดังต่อไปนี้ เกิดการบาดเจ็บของร่างกาย รบกวนการนอนหลับ ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ออกกำลังกายแค่ไหนจึงจะเหมาะสม โดยทั่วไปการออกกำลังกายที่เหมาะสม คือ ครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับประเภทและความหนักของการออกกำลังกายชนิดนั้น ๆ รวมถึงภาวะสุขภาพมีความแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เทรนเนอร์ และแพทย์ประจำตัว(กรณีมีโรคประจำตัว) เพื่อการวางแผนออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกับตนเอง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่แผนกกายภาพบำบัด โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

การออกำลังกายเพื่อลดปวดคอ บ่า ไหล่

การออกำลังกายเพื่อลดปวดคอ บ่า ไหล่

การออกกำลังกายเพื่อลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่

รักษาอาการปวดด้วยคลื่นแม่เหล็ก

รักษาอาการปวดด้วยคลื่นแม่เหล็ก