การตรวจสาเหตุภาวะมีบุตรยาก

ปัญหาการมีลูกยากเป็นเรื่องที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และมีข้อมูลระบุว่าอย่างน้อย 25% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากมักมีมากกว่าหนึ่งปัจจัยที่เป็นสาเหตุ ซึ่งทำให้การตรวจประเมินปัจจัยทั้งหมดจากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้แพทย์สามารถหาสาเหตุและเสนอแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้

ขั้นตอนการประเมิน เริ่มต้นด้วยการซักถามประวัติทางการแพทย์เป็นขั้นตอนสำคัญที่แพทย์จะทำ โดยจะสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังนี้:

  • ความถี่และความสม่ำเสมอของรอบประจำเดือน: เพื่อประเมินปัญหาการตกไข่

  • อาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน: อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพในระบบสืบพันธุ์

  • ประวัติเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน: อาจมีผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์

  • ประวัติการตั้งครรภ์และการแท้งบุตรก่อนหน้านี้: เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติการเจริญเติบโตของครรภ์

  • วิธีการคุมกำเนิดที่ผ่านมา: อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต

สำหรับฝ่ายชาย หากมีประวัติเกี่ยวกับการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดที่อวัยวะเพศ หรือเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในหรือซิฟิลิส อาจส่งผลต่อคุณภาพของเชื้ออสุจิได้

นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ เช่น ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ ความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจขัดขวางการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ

การเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์

นอกจากการพูดคุยซักประวัติและวางแผนการตรวจหาสาเหตุแล้ว แพทย์ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดีในอนาคต เช่น:

  • การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

  • การรับประทานวิตามินเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์

  • การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด

  • การให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรม

ทางเลือกในการรักษา

สำหรับคู่รักที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก ไม่ต้องกังวลใจ เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าหลายวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูก เช่น:

ที่ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ มีแพทย์ที่มีความชำนาญและทีมสหาสาขาวิชาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ พร้อมให้การดูแลในทุกขั้นตอน ด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้คู่รักมีโอกาสที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์ และเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์อย่างที่หวังไว้.

นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

บทความที่เกี่ยวข้อง

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก

บริการ IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี : สู่เส้นทางการเเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับครอบครัวที่ใฝ่ฝันมีเจ้าตัวน้อย สำหรับคู่รักที่มีความหวังในการมีบุตร แต่พบกับความยากลำบาก IUI (Intra-Uterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมในเบื้องต้น ด้วยขั้นตอนที่ใกล้เคียงกับการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ขั้นตอนการเตรียมตัว ฝ่ายชาย จะต้องเตรียมตัวโดยงดการมีเพศสัมพันธ์หรือหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 3 – 7 วันก่อนนัดหมาย ฝ่ายหญิง แพทย์จะทำการติดตามการเจริญเติบโตของไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ เพื่อนัดหมายฉีดเชื้อในวันที่ไข่โตเต็มที่ ขั้นตอนการฉีดเชื้อ ฝ่ายชายเก็บน้ำเชื้ออสุจิ น้ำเชื้อจะผ่านการคัดเลือกตัวอสุจิที่แข็งแรง (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ฝ่ายหญิงจะนอนบนเตียงตรวจทางสูตินรีเวช โดยแพทย์ใช้เครื่องมือขยายช่องคลอด แพทย์จะฉีดน้ำเชื้ออสุจิประมาณ 0.3 มิลลิลิตรเข้าสู่โพรงมดลูกอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นฝ่ายหญิงจะนอนพักประมาณ 20 – 30 นาที ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดเชื้อ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ หากมีอาการปวดท้องหรือเลือดออกเล็กน้อยสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น ทำไมเลือก IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี? บริการ IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีมุ่งเน้นการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสหสาขาวิชาชีพ ด้วยมาตรฐานระดับสากล ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงและภาวะแทรกซ้อนต่ำ หากคุณคือคู่รักที่มีความฝันในการสร้างครอบครัว การเลือก IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีอาจเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จในเส้นทางนี้. ปรึกษาและนัดหมายแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

เครียดมากเกินไป ส่งผลให้มีบุตรยาก!

เครียดมากเกินไป ส่งผลให้มีบุตรยาก!

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ปัญหาทางสังคม ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาด้านการทำงาน และปัจจัยในด้านต่าง ๆ ล้วนส่งผลกระทบให้ผู้คนเกิดความเครียด และความกังวลเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งความเครียดนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการมีบุตร หรือทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากขึ้นได้ โดยเฉพาะในคุณผู้หญิง หากเกิดความเครียด อาจจะก่อให้เกิดภาวะการตกไข่ที่ผิดปกติ หรือไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะฮอร์โมนจากความเครียดจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในระบบสืบพันธุ์ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์หรือมีบุตรนั้นลดลงไปด้วย หากรู้อย่างนี้แล้วต้องรู้จักระวังตัวเอง อย่าปล่อยให้เกิดความเครียดมากเกินไป จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ในจิตใจได้ พร้อมด้วยการปรับพฤติกรรม และ Lifestyle ต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมต่อการมีบุตรที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไปด้วยกันทั้งครอบครัว ​ ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ BDMS WELLNESS CLINIC https://www.bdmswellness.com/ ปรึกษามีบุตรยากและนัดหมายแพทย์ติดต่อคลินิกผู้มีบุตรยาก โรงำยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

อายุคุณผู้หญิงกับโอกาสตั้งครรภ์

อายุคุณผู้หญิงกับโอกาสตั้งครรภ์

ปัจจุบันภาวะมีบุตรยากกลายเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคู่สามีภรรยายุคใหม่ เนื่องจากหลายคนเลือกที่จะแต่งงานในช่วงเวลาที่ช้าขึ้นและมีอายุมากขึ้น ส่งผลให้สมรรถภาพในการมีบุตรลดลง คำถามที่ผู้หญิงมักสงสัยคือ สามารถตั้งครรภ์ได้ถึงอายุเท่าไร และทำไมเมื่ออายุมากขึ้นโอกาสในการตั้งครรภ์ถึงลดลง ดังนั้น การมีความรู้และการวางแผนชีวิตคู่ในเรื่องการตั้งครรภ์จึงมีความสำคัญ เพื่อให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงความรู้สึกเสียดายว่า "สายเกินไป" ในการมีลูก อายุของผู้หญิงกับโอกาสในการตั้งครรภ์ ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสตั้งครรภ์ยากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ได้แก่: ความคลาดเคลื่อนของโครโมโซม เซลล์ร่างกายมนุษย์มีโครโมโซมทั้งหมด 46 ชิ้นหรือ 23 คู่ การเกิดทารกเริ่มต้นจากการรวมตัวของเซลล์สืบพันธุ์จากพ่อและแม่ ซึ่งจะนำเอาสารพันธุกรรมมารวมกัน หากไข่ไม่สามารถแบ่งโครโมโซมได้อย่างถูกต้อง อาจเกิดไข่ที่มีโครโมโซมผิดปกติได้ เช่น 24 ชิ้นหรือ 22 ชิ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาของตัวอ่อนที่อาจมีปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการแท้งบุตรหรือการเกิดความผิดปกติในร่างกายและสติปัญญา พลังงานในเซลล์ไข่ เมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้น พลังงานในเซลล์ไข่จะลดลง ทำให้กระบวนการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของตัวอ่อนมีประสิทธิภาพต่ำลง อาจส่งผลให้ไม่สามารถฝังตัวในโพรงมดลูกได้หรือหยุดการเจริญเติบโตในระหว่างการพัฒนา อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลง การแท้งบุตรเพิ่มมากขึ้น และมีความเสี่ยงในการคลอดบุตรที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม ดังนั้น การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มีอายุมากจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด ตั้งคำถามเมื่อเริ่มใช้ชีวิตคู่ ความสุขในการใช้ชีวิตคู่คืออะไร? คุณต้องการใช้ชีวิตคู่กันเพียงแค่สองคนหรือไม่? มีความต้องการมีบุตรมากแค่ไหน? หากต้องการมีบุตร ควรพร้อมตั้งครรภ์เมื่ออายุเท่าใด และจะมีปัญหาอะไรบ้าง? หากต้องการมีบุตรหลายคน แต่เริ่มตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก เช่น 39 ปี จะมีอุปสรรคใดบ้าง? วิธีการช่วยให้ตั้งครรภ์ได้ตามที่ตั้งใจ ปัจจุบันมีวิธีการช่วยให้สามารถตั้งครรภ์ได้ตามที่ตั้งใจ เช่น การทำ IUI (Intrauterine Insemination) ซึ่งเป็นการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงและฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกในช่วงไข่ตก และการทำ IVF (In Vitro Fertilization) ที่เจาะเก็บไข่สุกและนำไปผสมกับอสุจิในหลอดทดลอง จนเกิดเป็นตัวอ่อนที่พร้อมจะนำกลับไปฝังในโพรงมดลูก ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมสหาสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้การตั้งครรภ์ประสบผลสำเร็จอย่างดีที่สุด ปรึกษาและนัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมติดต่อคลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีโทร 039-319888

5 สาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยาก

5 สาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยาก

จากการศึกษาพบว่าอย่างน้อย 15% ของคู่สมรสมีปัญหาในการตั้งครรภ์ ซึ่งหมายความว่ามีหลายคู่ที่ประสบปัญหาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตร เช่น อายุ, สุขภาพ, สภาพแวดล้อม และปัจจัยทางพันธุกรรม การมีบุตรไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสุขภาพ แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความสุขในชีวิตคู่ ดังนั้นการเข้าใจและยอมรับปัญหานี้จะทำให้คู่รักสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังและแผนการที่ชัดเจนในการสร้างครอบครัวในอนาคต การเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ไม่เพียงแต่จะช่วยประเมินสาเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยลดความวิตกกังวล และช่วยให้คู่รักมีข้อมูลและแนวทางในการรักษาที่ชัดเจนมากขึ้น ในหลายกรณี การวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ สามารถนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ในอนาคต โดยสาเหตุของภาวะมีบุตรยากแบ่งออกเป็น 5 สาเหตุหลัก ดังนี้ ปัญหาการตกไข่ (Ovulation Factor): เกิดจากการที่ผู้หญิงมีปัญหาในการตกไข่ ซึ่งอาจตรวจสอบได้ด้วยชุดทดสอบที่ตรวจระดับฮอร์โมน LH ในปัสสาวะหรืออัลตราซาวนด์ ตรวจพบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากจะมีจำนวนและคุณภาพไข่ลดลง ทำให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น ปัญหาท่อนำไข่ (Tubal Factor): ท่อนำไข่มีบทบาทสำคัญในการปฏิสนธิ หากท่อนำไข่ตีบตัน จะทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ โดยอาจตรวจสอบได้จากการเอกซเรย์หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง ปัญหาอสุจิ (Male Factor): ประมาณ 40% ของปัญหาภาวะมีบุตรยากเกิดจากคุณภาพของอสุจิ ซึ่งสามารถตรวจได้จากการวิเคราะห์น้ำเชื้อ หากพบความผิดปกติ อาจต้องตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ปัญหาที่มดลูกและปากมดลูก (Uterine / Cervical Factor): สาเหตุจากมดลูกที่ผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือติ่งเนื้อ ที่อาจรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเช่น อัลตราซาวนด์หรือการส่องกล้อง ปัญหาเยื่อบุภายในช่องท้อง (Peritoneal Factor): อาการอักเสบในช่องท้อง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้เกิดพังผืดหรือแผลเป็น การวินิจฉัยต้องทำการผ่าตัดผ่านกล้อง นอกจากนี้ยังมี ภาวะมีบุตรยากแบบไม่มีสาเหตุ (Unexplained Infertility) ซึ่งประมาณ 10% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากไม่พบความผิดปกติชัดเจน แพทย์มักแนะนำให้ลองรักษาด้วยการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI) หรือเด็กหลอดแก้วต่อไป การทำความเข้าใจและตรวจสอบสาเหตุเหล่านี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยาก. นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กับ การทำอิ๊กซี่ (ICSI)

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กับ การทำอิ๊กซี่ (ICSI)

ปัจจุบันการทำเด็กหลอดแก้วเป็นอีก 1 ทางเลือกของคู่รักที่ต้องการมีบุตร เนื่องจากปัญหาภาวะมีบุตรยากที่เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของไข่หรืออสุจิ ความไม่สมดุลของฮอร์โมน อายุที่เพิ่มขึ้น หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ทำให้ต้องหาวิธีการช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร เมื่อเทคโนโลยีการช่วยเจริญพันธุ์อื่นใช้ไม่ได้ผลการทำเด็กหลอดแก้วนับเป็นทางเลือกที่ถูกนึกถึง แต่บ่อยครั้งที่มักจะสับสนระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วไอวีเอฟ (IVF) กับการทำอิ๊กซี่ (ICSI) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีจึงสรุปมาให้เข้าใจง่ายมากขึ้น 1. การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กระบวนการ: นำไข่และอสุจิมาผสมกันนอกตัวในห้องปฏิบัติการ อสุจิจะเข้าไปเจาะไข่เอง ซึ่งคล้ายกับการปฏิสนธิในธรรมชาติ เริ่มจากการตรวจความพร้อมของผู้หญิงในวันที่ 2-3 ของรอบเดือน และฉีดยากระตุ้นไข่ประมาณ 8-14 วัน เมื่อได้ไข่ตามที่ต้องการ จะฉีดยากระตุ้นไข่ตกและเก็บไข่ อสุจิที่เก็บจากผู้ชายจะนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกย้ายไปยังโพรงมดลูกหลังจาก 3-5 วัน 2. การทำอิ๊กซี่ (ICSI) กระบวนการ: เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาอสุจิไม่สามารถเจาะไข่ได้ ใช้เข็มฉีดอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เริ่มต้นคล้ายกับ IVF โดยการฉีดยากระตุ้นไข่ และเก็บไข่ด้วยการเจาะ ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกย้ายไปยังโพรงมดลูกหลังจากเติบโตในห้องปฏิบัติการ ข้อแตกต่างหลัก IVF: อสุจิจะผสมกับไข่เองในจานเพาะเลี้ยง ICSI: อสุจิถูกฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง ปรึกษาและนัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร 039-319888

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

การมีลูกยากเป็นปัญหาที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และโชคดีที่ปัจจุบันมีหลายวิธีในการช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาร่วมกับคู่สามีภรรยาตามความเหมาะสมในแต่ละคู่ ซึ่งเทคโนโลยีที่นิยมและได้รับการยอมรับ ได้แก่ 1.การคัดเชื้อเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก (IUI) IUI เป็นวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยในกระบวนการนี้จะเก็บน้ำเชื้อจากฝ่ายชายในช่วงวันตกไข่ของฝ่ายหญิง น้ำเชื้อจะถูกคัดแยกและเพาะเลี้ยงในน้ำยาเฉพาะ เพื่อแยกอสุจิที่มีคุณภาพและแข็งแรงที่สุด ก่อนที่จะนำไปฉีดเข้าโพรงมดลูกโดยตรง วิธีนี้ช่วยให้เชื้ออสุจิสามารถเข้าถึงไข่ได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสปฏิสนธิมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดหรือการดมยาสลบ 2.เด็กหลอดแก้ว (IVF) ในกรณีที่ IUI อาจไม่เพียงพอ วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยวิธีนี้เริ่มต้นด้วยการกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่แข็งแรงจำนวนมาก จากนั้นจะทำการเก็บไข่โดยการเจาะผ่านช่องคลอด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้ยาสลบและไม่ต้องเจาะหน้าท้อง หลังจากนั้น อสุจิจากฝ่ายชายจะถูกนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ และจะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนแบ่งตัวเป็นระยะ 4–8 เซลล์ หรือจนถึงระยะบลาสโตซีสต์ (Blastocyst) ที่มีความพร้อมในการฝังตัวในโพรงมดลูก วิธีนี้ให้อัตราการตั้งครรภ์ที่สูงมากและเป็นที่นิยมในหมู่คู่รักที่ต้องการสร้างครอบครัว 3.การฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในไข่ (ICSI) สำหรับคู่รักที่มีปัญหาทางอสุจิ เช่น มีจำนวนอสุจิน้อยมากจนไม่สามารถปฏิสนธิไข่ได้ หรือไม่มีอสุจิในน้ำเชื้อเลย แต่ยังมีการผลิตอสุจิในอัณฑะ วิธี Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) จะเป็นวิธีที่เหมาะสม โดยใช้เข็มแก้วเล็ก ๆ เพื่อฉีดอสุจิเพียงหนึ่งตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ หลังจากที่อสุจิเข้าไปในไข่แล้ว จะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนเติบโตและมีความพร้อมที่จะนำกลับไปใส่ในโพรงมดลูก ซึ่งวิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมากสำหรับคู่รักที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ สรุป การเลือกวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความพร้อมของคู่รักแต่ละคู่ IUI, IVF และ ICSI ต่างมีประสิทธิภาพในแบบของตัวเอง ซึ่งทำให้สามารถช่วยให้คู่รักสามารถสร้างครอบครัวได้ตามที่หวังไว้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน การมีลูกจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888