การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กับ การทำอิ๊กซี่ (ICSI)

ปัจจุบันการทำเด็กหลอดแก้วเป็นอีก 1 ทางเลือกของคู่รักที่ต้องการมีบุตร เนื่องจากปัญหาภาวะมีบุตรยากที่เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของไข่หรืออสุจิ ความไม่สมดุลของฮอร์โมน อายุที่เพิ่มขึ้น หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ทำให้ต้องหาวิธีการช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร เมื่อเทคโนโลยีการช่วยเจริญพันธุ์อื่นใช้ไม่ได้ผลการทำเด็กหลอดแก้วนับเป็นทางเลือกที่ถูกนึกถึง แต่บ่อยครั้งที่มักจะสับสนระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วไอวีเอฟ (IVF) กับการทำอิ๊กซี่ (ICSI) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีจึงสรุปมาให้เข้าใจง่ายมากขึ้น

1. การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)

  • กระบวนการ:

    • นำไข่และอสุจิมาผสมกันนอกตัวในห้องปฏิบัติการ อสุจิจะเข้าไปเจาะไข่เอง ซึ่งคล้ายกับการปฏิสนธิในธรรมชาติ

    • เริ่มจากการตรวจความพร้อมของผู้หญิงในวันที่ 2-3 ของรอบเดือน และฉีดยากระตุ้นไข่ประมาณ 8-14 วัน

    • เมื่อได้ไข่ตามที่ต้องการ จะฉีดยากระตุ้นไข่ตกและเก็บไข่

    • อสุจิที่เก็บจากผู้ชายจะนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ

    • ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกย้ายไปยังโพรงมดลูกหลังจาก 3-5 วัน

2. การทำอิ๊กซี่ (ICSI)

  • กระบวนการ:

    • เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาอสุจิไม่สามารถเจาะไข่ได้

    • ใช้เข็มฉีดอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง

    • เริ่มต้นคล้ายกับ IVF โดยการฉีดยากระตุ้นไข่ และเก็บไข่ด้วยการเจาะ

    • ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกย้ายไปยังโพรงมดลูกหลังจากเติบโตในห้องปฏิบัติการ

ข้อแตกต่างหลัก

  • IVF: อสุจิจะผสมกับไข่เองในจานเพาะเลี้ยง

  • ICSI: อสุจิถูกฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง

ปรึกษาและนัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โทร 039-319888

บทความที่เกี่ยวข้อง

การตรวจสาเหตุภาวะมีบุตรยาก

การตรวจสาเหตุภาวะมีบุตรยาก

ปัญหาการมีลูกยากเป็นเรื่องที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และมีข้อมูลระบุว่าอย่างน้อย 25% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากมักมีมากกว่าหนึ่งปัจจัยที่เป็นสาเหตุ ซึ่งทำให้การตรวจประเมินปัจจัยทั้งหมดจากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้แพทย์สามารถหาสาเหตุและเสนอแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ ขั้นตอนการประเมิน เริ่มต้นด้วยการซักถามประวัติทางการแพทย์เป็นขั้นตอนสำคัญที่แพทย์จะทำ โดยจะสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังนี้: ความถี่และความสม่ำเสมอของรอบประจำเดือน: เพื่อประเมินปัญหาการตกไข่ อาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน: อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพในระบบสืบพันธุ์ ประวัติเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน: อาจมีผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ ประวัติการตั้งครรภ์และการแท้งบุตรก่อนหน้านี้: เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติการเจริญเติบโตของครรภ์ วิธีการคุมกำเนิดที่ผ่านมา: อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต สำหรับฝ่ายชาย หากมีประวัติเกี่ยวกับการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดที่อวัยวะเพศ หรือเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในหรือซิฟิลิส อาจส่งผลต่อคุณภาพของเชื้ออสุจิได้ นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ เช่น ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ ความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจขัดขวางการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ การเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ นอกจากการพูดคุยซักประวัติและวางแผนการตรวจหาสาเหตุแล้ว แพทย์ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดีในอนาคต เช่น: การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การรับประทานวิตามินเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด การให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรม ทางเลือกในการรักษา สำหรับคู่รักที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก ไม่ต้องกังวลใจ เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าหลายวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูก เช่น: การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) การทำอิ๊กซี่ (ICSI) การตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมระยะก่อนฝังตัว (PGT-A และ PGT-M) ที่ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ มีแพทย์ที่มีความชำนาญและทีมสหาสาขาวิชาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ พร้อมให้การดูแลในทุกขั้นตอน ด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้คู่รักมีโอกาสที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์ และเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์อย่างที่หวังไว้. นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก

บริการ IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี : สู่เส้นทางการเเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับครอบครัวที่ใฝ่ฝันมีเจ้าตัวน้อย สำหรับคู่รักที่มีความหวังในการมีบุตร แต่พบกับความยากลำบาก IUI (Intra-Uterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมในเบื้องต้น ด้วยขั้นตอนที่ใกล้เคียงกับการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ขั้นตอนการเตรียมตัว ฝ่ายชาย จะต้องเตรียมตัวโดยงดการมีเพศสัมพันธ์หรือหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 3 – 7 วันก่อนนัดหมาย ฝ่ายหญิง แพทย์จะทำการติดตามการเจริญเติบโตของไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ เพื่อนัดหมายฉีดเชื้อในวันที่ไข่โตเต็มที่ ขั้นตอนการฉีดเชื้อ ฝ่ายชายเก็บน้ำเชื้ออสุจิ น้ำเชื้อจะผ่านการคัดเลือกตัวอสุจิที่แข็งแรง (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ฝ่ายหญิงจะนอนบนเตียงตรวจทางสูตินรีเวช โดยแพทย์ใช้เครื่องมือขยายช่องคลอด แพทย์จะฉีดน้ำเชื้ออสุจิประมาณ 0.3 มิลลิลิตรเข้าสู่โพรงมดลูกอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นฝ่ายหญิงจะนอนพักประมาณ 20 – 30 นาที ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดเชื้อ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ หากมีอาการปวดท้องหรือเลือดออกเล็กน้อยสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น ทำไมเลือก IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี? บริการ IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีมุ่งเน้นการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสหสาขาวิชาชีพ ด้วยมาตรฐานระดับสากล ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงและภาวะแทรกซ้อนต่ำ หากคุณคือคู่รักที่มีความฝันในการสร้างครอบครัว การเลือก IUI ที่โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีอาจเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จในเส้นทางนี้. ปรึกษาและนัดหมายแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

IUI ฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก Package

IUI ฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก Package

เรื่องชวนสงสัยของคนอยากมีลูก

เรื่องชวนสงสัยของคนอยากมีลูก

การมีลูกเป็นของขวัญที่สำคัญและมักมาพร้อมกับคำถามมากมาย การมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่เพียงแต่ช่วยลดความกังวล ยังช่วยให้พ่อแม่สามารถวางแผนได้อย่างมั่นใจ ช่วงอายุกับการมีลูก อายุเป็นปัจจัยสำคัญในการตั้งครรภ์ โดยความเสี่ยงในการมีลูกจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะในเรื่องของการแท้งบุตรและความเสี่ยงต่อภาวะดาวน์ซินโดรม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมีลูกคืออายุ 20-35 ปี อย่างไรก็ตาม ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน คุณแม่สามารถตั้งครรภ์ได้แม้จะมีอายุมากกว่า 35 ปี หากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ปัจจัยเพิ่มเติมที่ควรพิจารณาคือ ผู้หญิงที่มีช็อกโกแลตซีสต์หรือเคยผ่าตัดรังไข่อาจมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยลง ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ ความเครียดและผลกระทบต่อการมีบุตร ความเครียดเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีบุตรอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่เครียดมากอาจส่งผลให้รังไข่ไม่ทำงานอย่างเหมาะสม ทำให้ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอและไข่ไม่ตก ทำให้ลดโอกาสในการตั้งครรภ์ ในกรณีของผู้ชาย ความเครียดอาจทำให้ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ลดลง ซึ่งทำให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคู่แต่งงานใหม่มีโอกาสตั้งครรภ์มากที่สุดหลังแต่งงานประมาณ 6 เดือน หากฝ่ายหญิงยังไม่ตั้งครรภ์ในช่วงนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ต่อไป การฝากไข่และแช่แข็งน้ำเชื้อ การฝากไข่และแช่แข็งน้ำเชื้อได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการมีลูกในอนาคต แต่ยังไม่มีคู่ แม้จะไม่มีการันตีว่าการฝากไข่หรือแช่แข็งน้ำเชื้อจะทำให้ตั้งครรภ์ได้แน่นอน แต่ช่วยรักษาคุณภาพของไข่และน้ำเชื้อในช่วงเวลาที่ฝากไว้ได้เป็นอย่างดี หากไข่ถูกฝากไว้นานกว่า 10 ปี อาจเสื่อมสภาพบางส่วน แต่ในกรณีของน้ำเชื้อ สามารถเก็บไว้ได้นานกว่า 10 ปีโดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ไข่ที่ถูกแช่แข็งอาจมีอัตราการรอดชีวิตหลังการละลายอยู่ที่ 80-90% ความสำเร็จในการตั้งครรภ์ยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่และน้ำเชื้อ รวมถึงสุขภาพและความพร้อมของคุณแม่ด้วย โอกาสแท้งเมื่อมีการตั้งครรภ์ ทั่วไปแล้ว โอกาสแท้งมักสูงที่สุดในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ การวิจัยพบว่า 70% ของการแท้งมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อน ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสแท้งยิ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรพิจารณาเมื่อวางแผนการตั้งครรภ์ การจัดการกับการมีบุตรยาก คู่รักที่ประสบปัญหามีบุตรยากอาจเกิดจากหลายปัจจัย แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวันไข่ตก, การกระตุ้นไข่ และการทำเด็กหลอดแก้ว โดยการผสมไข่และน้ำเชื้อในห้องแล็บแล้วนำกลับเข้าสู่ร่างกายผู้หญิง นอกจากนี้ การตรวจโครโมโซมยังช่วยลดโอกาสการแท้งและความเสี่ยงต่อภาวะดาวน์ซินโดรม ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีบุตร ความเสี่ยงในการมีบุตรในอายุมาก สำหรับคุณแม่ที่ต้องการมีลูกเมื่ออายุมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด โดยต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ เช่น โอกาสแท้งและภาวะดาวน์ซินโดรม ซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามอายุของผู้หญิง เมื่อผู้หญิงอายุ 37 ปีขึ้นไป ประจำเดือนมักจะมาน้อยลงและไข่ก็จะลดจำนวนลง นอกจากนี้ในกรณีที่ฝ่ายชายทำหมันแล้วต้องการมีลูก การใช้เทคโนโลยีเด็กหลอดแก้วจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการผ่าตัดต่อหมัน การวางแผนครอบครัว การวางแผนครอบครัวเป็นสิ่งที่คู่สามีภรรยาควรทำร่วมกันอย่างชัดเจน เพื่อสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ หากแผนการเปลี่ยนไปจากที่วางไว้ ควรมีการปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และการใช้ชีวิตคู่ เพื่อให้การมีลูกเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุขในอนาคต นัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php

ฝากไข่ แช่แข็งอสุจิ วางแผนมีลูกเมื่อพร้อม

ฝากไข่ แช่แข็งอสุจิ วางแผนมีลูกเมื่อพร้อม

การมีลูกในเวลาที่พร้อมคือความฝันของพ่อแม่หลายคน หลายครั้งคู่แต่งงานไม่ต้องการมีลูกทันที หรืออาจแต่งงานในช่วงอายุมาก หรือมีปัญหาสุขภาพที่ต้องดูแล การฝากไข่และแช่แข็งอสุจิจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างครอบครัวตามเวลาที่ต้องการ อายุส่งผลต่อโอกาสมีลูก อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 30 ปีมักไม่ประสบปัญหาการตั้งครรภ์ แต่เมื่ออายุเกิน 35 ปี การทำงานของรังไข่จะลดลง คุณภาพและปริมาณของไข่ก็จะลดตามไปด้วย ส่งผลให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น สำหรับผู้ชายอายุไม่ได้มีผลชัดเจนต่อคุณภาพของอสุจิ โอกาสตั้งครรภ์อยู่ที่ 30% ต่อเดือน หากไม่มีการตั้งครรภ์ภายใน 1 ปี ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ตรวจ AMH เพื่อเช็กคุณภาพไข่ การตรวจฮอร์โมน AMH (Anti-Mullerian Hormone) ช่วยประเมินคุณภาพไข่และการทำงานของรังไข่ได้ การตรวจนี้สามารถทำได้ง่ายเพียงเจาะเลือด โดยไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร ค่าของ AMH จะช่วยคาดการณ์การตอบสนองของรังไข่เมื่อฉีดยากระตุ้นไข่ ฝากไข่เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก การฝากไข่เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด การฝากไข่จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าแช่แข็งอสุจิ เริ่มจากการปรึกษาแพทย์ ตรวจเลือด ตรวจฮอร์โมน และตรวจคัดกรองโรค ก่อนจะทำการกระตุ้นไข่และเก็บไข่เพื่อแช่แข็ง การฉีดยากระตุ้นไข่ด้วยตนเอง ปัจจุบันผู้หญิงสามารถฉีดยากระตุ้นไข่ได้ด้วยตนเอง โดยระยะเวลาในการฉีดอยู่ที่ 9-12 วัน และต้องมีการตรวจสอบการเจริญเติบโตของไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ หลังจากนั้นจึงจะเก็บไข่ในหัตถการขนาดเล็กที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แช่แข็งอสุจิสำหรับผู้ชาย การแช่แข็งอสุจิเป็นทางเลือกสำหรับผู้ชายที่ต้องการมีลูกในอนาคต โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด วิธีการไม่ซับซ้อน ต้องทำการตรวจสุขภาพและเก็บน้ำเชื้อเพื่อเข้าสู่กระบวนการแช่แข็ง อายุการฝากไข่และแช่แข็งอสุจิ แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขชัดเจนเกี่ยวกับอายุการเก็บไข่และอสุจิ แต่แพทย์แนะนำให้ใช้ภายใน 5 ปีแรกหลังการแช่แข็ง เพราะหลังจากนั้นอาจมีความเสี่ยงที่คุณภาพจะลดลง การสังเกตภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง ผู้หญิงสามารถสังเกตภาวะมีบุตรยากจากการติดตามรอบประจำเดือน หากขาดหายไป 3-4 เดือน หรือรอบเดือนยาวผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ สรุป ไม่ว่าจะเลือกแต่งงานเมื่อใด แนะนำให้มีลูกตามธรรมชาติ โดยมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หากอายุต่ำกว่า 35 ปีควรใช้เวลา 1 ปีแรกหลังแต่งงาน หากอายุมากกว่า 35 ปีควรพยายามไม่เกิน 6 เดือน หากยังไม่สำเร็จควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยากเพื่อวางแผนการมีลูกตามที่ตั้งใจ นัดหมายแพทย์ คลิก https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมติดต่อคลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร

การมีลูกยากเป็นปัญหาที่หลายคู่รักต้องเผชิญ และโชคดีที่ปัจจุบันมีหลายวิธีในการช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาร่วมกับคู่สามีภรรยาตามความเหมาะสมในแต่ละคู่ ซึ่งเทคโนโลยีที่นิยมและได้รับการยอมรับ ได้แก่ 1.การคัดเชื้อเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก (IUI) IUI เป็นวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยในกระบวนการนี้จะเก็บน้ำเชื้อจากฝ่ายชายในช่วงวันตกไข่ของฝ่ายหญิง น้ำเชื้อจะถูกคัดแยกและเพาะเลี้ยงในน้ำยาเฉพาะ เพื่อแยกอสุจิที่มีคุณภาพและแข็งแรงที่สุด ก่อนที่จะนำไปฉีดเข้าโพรงมดลูกโดยตรง วิธีนี้ช่วยให้เชื้ออสุจิสามารถเข้าถึงไข่ได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสปฏิสนธิมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดหรือการดมยาสลบ 2.เด็กหลอดแก้ว (IVF) ในกรณีที่ IUI อาจไม่เพียงพอ วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยวิธีนี้เริ่มต้นด้วยการกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่แข็งแรงจำนวนมาก จากนั้นจะทำการเก็บไข่โดยการเจาะผ่านช่องคลอด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้ยาสลบและไม่ต้องเจาะหน้าท้อง หลังจากนั้น อสุจิจากฝ่ายชายจะถูกนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ และจะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนแบ่งตัวเป็นระยะ 4–8 เซลล์ หรือจนถึงระยะบลาสโตซีสต์ (Blastocyst) ที่มีความพร้อมในการฝังตัวในโพรงมดลูก วิธีนี้ให้อัตราการตั้งครรภ์ที่สูงมากและเป็นที่นิยมในหมู่คู่รักที่ต้องการสร้างครอบครัว 3.การฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในไข่ (ICSI) สำหรับคู่รักที่มีปัญหาทางอสุจิ เช่น มีจำนวนอสุจิน้อยมากจนไม่สามารถปฏิสนธิไข่ได้ หรือไม่มีอสุจิในน้ำเชื้อเลย แต่ยังมีการผลิตอสุจิในอัณฑะ วิธี Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) จะเป็นวิธีที่เหมาะสม โดยใช้เข็มแก้วเล็ก ๆ เพื่อฉีดอสุจิเพียงหนึ่งตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ หลังจากที่อสุจิเข้าไปในไข่แล้ว จะมีการเลี้ยงตัวอ่อนจนเติบโตและมีความพร้อมที่จะนำกลับไปใส่ในโพรงมดลูก ซึ่งวิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมากสำหรับคู่รักที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ สรุป การเลือกวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความพร้อมของคู่รักแต่ละคู่ IUI, IVF และ ICSI ต่างมีประสิทธิภาพในแบบของตัวเอง ซึ่งทำให้สามารถช่วยให้คู่รักสามารถสร้างครอบครัวได้ตามที่หวังไว้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน การมีลูกจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป นัดหมายและปรึกษาแพทย์ได้ที่ https://doctor.bangkokhospitalchanthaburi.com/alldoctor.php สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888